ความรักบันดาลใจในเสื้อผ้าของเหล่าดีไซเนอร์ไทย

ความรักบันดาลใจในเสื้อผ้าของเหล่าดีไซเนอร์ไทย
5 คอลเลกชั่นเปี่ยมไปด้วยรัก และความหมายในการออกแบบ

เมื่อความรักไม่ใช่เพียงความรู้สึกหวานๆ ขมๆ ของคนที่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์ความรู้สึกเท่านั้น บางครั้งความรักมีหลายความหมายในต่างบริบทกัน ความรักจึงสามารถเป็นได้ทั้งความรู้สึกและพลังในการครีเอทสิ่งต่างๆ ของผู้คน และในช่วงเดือนแห่งความรักนี้ สยามเซ็นเตอร์ขอนำเสนอมุมมองของความรักสุดสร้างสรรค์ในธีม LOVE OF SIAM ปรากฏการณ์รักล้นสยาม อินสไปร์ทุกจังหวะ ด้วยศิลปะและแฟชั่นแห่งความรัก ของเหล่าดีไซเนอร์ไทยแบรนด์ดัง ที่ใช้ “ความรัก” เป็นวัตถุดิบในการคิดคอนเซ็ปต์ และดีไซน์เสื้อผ้าคอลเลกชั่นต่างๆ ออกมา

“ความหมายของการอยู่เคียงข้างกัน”
คอลเลกชั่น Side by Side Spring/Summer 2019
Rotsaniyom White Label ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์

หากติดตามผลงานเสื้อผ้า Rotsaniyom เรื่อยมา เราจะเห็นได้ว่าแรงบันดาลใจในแต่ละคอลเลกชั่นของแบรนด์ ล้วนมาจากการใช้ชีวิตของคุณอ๊อฟและคุณกิ๊ฟ ผู้ร่วมกันสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา ซึ่งใน R. White Label คอลเลกชั่น “Side by Side” Spring Summer 2019 นี้ อินสไปร์มาจากความหมายของการมีกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว หรือความสัมพันธ์ในแบบอื่น รวมถึงบางท่อนจากบทเพลง Stand by me เพลงต้นฉบับโดย Ben E. King ที่ถูกนำมาทำใหม่ในอัลบั้ม Songs Around The World โดยโปรเจ็กต์ Playing For Change เพื่อสื่อว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใครสิ่งสำคัญก็คือคนที่จะอยู่เคียงข้างคุณ คุณอาจจะไม่ต้องมีอะไรเลยก็ได้ แค่มีคนที่เข้าใจคุณและอยู่เคียงข้างกัน

“Side by Side ของเรามันคือครอบครัว คือลูก คือภรรยา เราก็เลยพูดถึงความเป็นผู้หญิงผู้ชาย สิ่งที่มีให้กัน คอลเลกชั่นนี้เราก็เลยพยายามพูดถึงอะไรที่มันจะคอยอยู่ใกล้ๆ กัน เคียงข้างกัน แบบที่เห็นใน lookbook ที่นางแบบนั่งอยู่แล้วก็มีถุงมือสีดำๆ มาเกาะไหล่ ให้รู้สึกว่าวันที่คุณเฟล มันก็ยังมีคนคอยอยู่เคียงข้างนะ - - พอแปลงเป็นเสื้อผ้า เราก็เลยเอาลุคความเป็นเฟมินีนและมาสคิวลินมารวมกัน เช่น ชุดที่ท่อนบนเป็นเชิ้ต ซึ่งมีความมาสคิวลิน แต่ท่อนล่างเป็นกระโปรงฟูฟ่องแบบเฟมินีน หรือลุคที่เอาเฟมินีนไว้ข้างในเป็นสายเดี่ยว บวกกับแจ็คเกตเดินป่าแบบมาสคิวลิน แล้วก็จะมีดีเทลเรื่องมือที่เป็นสัญลักษณ์เข้ามาใส่ในเสื้อผ้าด้วย”

“เรียนรู้ที่จะรักและไม่ตัดสินซึ่งกันและกัน”
คอลเลกชั่น “Oh darling! i love you” Fall/Winter 2018
Everyday Karmakamet ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์

หนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่มีปรัชญาพื้นฐานของการออกแบบโปรดักต์ต่างๆ อย่างชัดเจน ทุกชิ้นมีคอนเซ็ปต์ซื่อตรงต่อการใช้ชีวิตโดยเริ่มง่ายๆ แค่เพียงประโยคสั้นๆ กระแทกใจอย่าง “I Love My Life” แล้วทุกอย่างที่ดีจะตามมาเอง ไม่ว่าจะเป็นวิถีการใช้ชีวิตด้านไหน รวมถึงไลน์เสื้อผ้าที่ทางแบรนด์เพิ่งเปิดตัวตามมา

“Oh darling! i love you” คือเรื่องราวของการเฉลิมฉลองความงดงามจากความแตกต่างในการเป็นมนุษย์ ในสังคมปัจจุบันที่ความแตกต่างหลากหลายเป็นสิ่งสามัญธรรมดา ความรักจึงบังเกิดขึ้นได้หากเราเรียนรู้ที่จะไม่ตัดสินซึ่งกันและกัน เหมือนสีสันที่แตกต่างบนสายรุ้งที่สะท้อนออกมาเป็นงานออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชั่นนี้ ทั้งหมดนั้นเป็นเสื้อผ้าของเราทุกคน แค่หยิบมาใส่และสนุกสนานไปกับมัน เป็นหนึ่งเดียวกันด้วย "ความรัก" และสนุกกับการใช้ชีวิตของเรา เคารพในการ “สวมใส่สิทธิ์ส่วนบุคคล” ของทุกคน ด้วยพื้นที่ใหม่ที่ว่า "CLOTHING IS JUST FOR WEARING"

“ความรักในความไม่สมบูรณ์แบบ”
คอลเลกชั่น “Imperfectionist” Autumn/Winter 2018
Wonder Anatomie ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์

Wonder Anatomie คือแบรนด์แฟชั่นไทย ที่เริ่มมาจากวิถีความรักของคนในครอบครัว ในความคิดนอกกรอบของคุณป๊อบ ดีไซเนอร์ งานของวันเดอร์ อนาโตมีจึงเป็นความกล้าที่จะแตกต่าง และเพิ่มแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัวเข้าไป ในความพร้อมหน้าพร้อมตาของทั้งครอบครัวนี้ มีความเชื่อที่ซ่อนอยู่เสมอของคุณป๊อบ และพี่ๆ ทั้งสองว่า “เอาที่เราชอบ และไม่ต้องหาอะไรที่เพอร์เฟ็กต์ก็ได้” เพราะทุกแรงผลักของวันเดอร์ อนาโตมี เริ่มมาจากความชอบล้วนๆ มากไปกว่าต้องพยายามหาสิ่งที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด เห็นได้ชัดจากงานสร้างสรรค์ออกมาในคอลเลกชั่น  “Imperfectionist” A/W18 ที่ผ่านมา

คล้ายๆ กับความรัก ไม่มีความรักใดสมบูรณ์แบบไปหมดทุกอย่าง หรือแม้แต่ตัวเราเองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเช่นกัน จากความไม่เพอร์เฟ็กต์นี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าและคอลเลกชั่น ไม่จำเป็นต้องเป็นเสื้อแบบเดิมที่เราเคยรู้จัก อาจจะบิดเบี้ยวไม่เพอร์เฟ็กต์ไปบ้าง นั่นล่ะ...ความรักในโลกแห่งความจริง

“คำอธิษฐานแห่งรัก”
คอลเลกชั่น “PRD : PARADISE” PERHAPS/RADIANT/DESTINY RESORT 2019
ICONIC ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์

หากจะมีแบรนด์ไหนออกแบบเสื้อผ้าได้เข้าใจความเป็นผู้หญิงอย่างที่สุด คงต้องมีชื่อ ICONIC อยู่ด้วย โดยเฉพาะเมื่อความหลงใหลในความเป็นผู้หญิงนี้พัฒนาออกมาเป็นคอลเลกชั่นมากมาย บนลวดลายและดอกไม้ที่บ่งบอกตัวตนของผู้หญิงในหลากหลายแบบ ผู้หญิงที่มีความฝัน ผู้หญิงที่มีความทรงจำ หรือไอคอนของผู้หญิงที่เราอยากจะเป็น

คอลเลกชั่นล่าสุด RESORT 2019 ICONIC นำความทรงจำชวนฝันมาถ่ายทอดผ่านลวดลายดอกไม้ Tampopo (เท็มโปโป) หรือ Dandelion (แดนดิไลออน) ดอกไม้แห่งความสุข ความรัก ความร่าเริงและความหวัง ที่ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าการอธิษฐานและเป่าเพียงหนึ่งครั้งให้เมล็ดของแดนดิไลออนทั้งหมดหลุดลอยออกจากฐานรองดอก จะทำให้สมหวังในคำอธิษฐาน ราวกับว่าคำขอนั้นจะถูกส่งผ่านสายลมเดินทางออกไปยังจุดหมายปลายทางที่ฝันไว้ ไม่ว่าความรักหรือความสุขในชีวิตล่องลอยดุจปุยนุ่น ต้อนรับแสงแดดยามบ่ายของฤดูใบไม้ผลิที่จะมาถึง

“เราต่างปรับตัวเข้าหากัน”
คอลเลกชั่น When Love Blooms Spring/Summer 2019
PAINKILLER ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์

คอลเลกชั่นครบรอบ 10 ปี PAINKILLER ที่เล่าเรื่องความรักและความเป็นหนึ่งเดียว ของความสัมพันธ์ที่ต่างขั้วกันระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว โดยใช้ผ้าแบนดาน่า (Bandana) และผ้าพันคอไหม (Carre de soie) แทนตัวตนของหนุ่มนักบิดสิงห์มอเตอร์ไซค์ กับหญิงสาวคุณหนูลูกผู้ดี ผ้าแบนดาน่าเนื้อฝ้ายดิบย้อมสีพิมพ์ลายซิลค์สกรีนกับผ้าพันคอไหมพิมพ์ลายดอกไม้เนื้อละเอียดเงางาม มีลายเพรสลีย์ มอเตอร์ไซค์ สายฟ้า ดอกมะลิลา มะลิซ้อน และมะลิฉัตร เป็นลายพิมพ์ประจำซีซั่นนี้

ผ้าทั้งสองชนิดนี้มีรูปทรงเหมือนกันแต่มีผิวสัมผัส ลวดลาย และการใช้งานที่แตกต่างกัน กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ดีไซเนอร์ออกแบบให้เกิดการผสมผสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เหมือนหนุ่มสาวที่พยายามปรับตัวเข้าหากัน เป็นเสื้อผ้าและลวดลายใหม่ในคอลเลคชั่น มีสีน้ำเงินอินดิโก้จากผ้าแบนดาน่าเป็นสีหลัก ผสมกับเฉดสีพาสเทลและสีก่ำจากผ้าพันคอไหม ครีเอทซิลลูเอทและรายละเอียดต่างๆ จากเสื้อไบเกอร์ในยุค 70’s ชิ้นเดนิมถูกตีความใหม่ให้ละมุนละไมตามแบบฉบับของ PAINKILLER เช่นเสื้อไบเกอร์แจ็คเก็ตหนังที่ปรับดีเทลและเปลี่ยนเป็นผ้าลินิน กางเกงสแล็คจากผ้าเดนิม กางเกงยีนส์ที่มีจีบและกระเป๋าแบบกางเกงสแล็ค ทรงปกเสื้อที่ใช้ดีเทลเหมือนการพันผ้าพันคอ