BACK TO EXPLORE

15 ไอเท็มท้าลมหนาว เอาชนะผิวแห้ง ไม่เปรี๊ยะ!

15 ไอเท็มท้าลมหนาว เอาชนะผิวแห้ง ไม่เปรี๊ยะ!
ได้เวลาเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับหน้าหนาวนี้

เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แม้ช่วงเวลาจะแสนสั้นและอากาศอาจไม่หนาวจัด แต่อุณหภูมิที่ลดลง ความชื้นในอากาศก็ลดน้อยลงเช่นกัน และสิ่งที่ตามมาคือปัญหาผิวหน้า ผิวกายหรือแม้แต่เส้นผมมีความแห้งกร้านกว่าเดิม ยิ่งถ้าอยู่ในห้องปรับอากาศด้วยแล้ว ผิวก็จะยิ่งสูญเสียความชุ่มชื่นมากขึ้น จึงมักเกิดอาการคัน ผิวแตกลอกเป็นขุยหรือผมชี้ฟูจากไฟฟ้าสถิต เพราะฉะนั้นได้เวลามาปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับฤดูกาลกันดีกว่า สยามเซ็นเตอร์รวมไอเท็มไม่ควรพลาดในหนาวนี้ เพราะช่วยเติมความชุ่มชื่นได้ยาวนาน แถมเนื้อสัมผัสยังดีงามอีกด้วย มาช้อปกันได้แล้วที่สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่

1. Lala Retro™ Whipped Cream จาก Drunk Elephant
มอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื่นสูงแต่ทำเนื้อสัมผัสได้บางเบาดีมาก เหมาะสำหรับใช้ในอากาศบ้านเราที่สุด เนื้อสัมผัสดูเข้มข้นแต่ทาแล้วซึมซาบดีและไม่ทิ้งความเหนอะหนะ มีส่วนผสมล้ำๆ อย่างสารสกัดน้ำมันจากแอฟริกาถึง 6 ชนิด, เซราไมด์และสารให้ความชุ่มชื่นอื่นๆ ทำออกมาให้มีโมเลกุลเล็ก จึงช่วยให้สารบำรุงซึมเข้าสู่ผิวได้ล้ำลึกมากขึ้น สำหรับคนที่ผิวมันหน่อย สามารถใช้เฉพาะตอนกลางคืนได้
ราคา: 40 ml. 2,100 บาท
ซื้อได้ที่: Sephora ชั้น G สยามเซ็นเตอร์



2. Creamy Eye Treatment with Avocado จาก Kiehl's
อายครีมเลื่องชื่อของแบรนด์มาด้วยเนื้อครีมเข้มข้นส่วนผสมน้ำมันอะโวคาโดเกลี่ยลงบนผิวได้นุ่มลื่นดีมาก ผิวรอบดวงตาจะเนียนและอิ่มฟูขึ้นทันที รู้สึกได้ว่าความชุ่มชื่นยังเคลือบอยู่บนผิวยาวนาน ช่วยลดเลือนริ้วรอยเส้นบางๆ ที่เกิดจากผิวแห้งได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ลงเมกอัพตามได้เนียนกว่าเดิมและไม่เป็นคราบด้วย
ราคา: 15 ml. 1,400 บาท
ซื้อได้ที่: Kiehl's ชั้น M สยามเซ็นเตอร์



3. Pure Color Envy Nighttime Rescue Lip Oil Serum และ Color Replenish Lip Balm จาก Estee Lauder
ผิวปากเป็นบริเวณที่สูญเสียความชุ่มชื่นได้ง่ายเพราะไม่มีต่อมไขมันเพื่อผลิตน้ำมันมาเคลือบผิว จึงอาจเกิดปัญหาผิวปากลอกเป็นขุยได้ ทาลิปสติกยังไงก็ไม่สวย แต่ลิปคอลเล็กชั่นใหม่จากเอสเต้ ลอเดอร์นี้สามารถช่วยได้ โดยมีกรดไฮยาลูโรนิกเข้มข้นช่วยล็อกความชุ่มชื่นให้อยู่บนผิวยาวนาน และยังมีสีชมพูระเรื่อช่วยขับผิวปากธรรมชาติให้ดูสดใสขึ้นด้วย แนะนำลิปบาล์มสำหรับกลางวัน ส่วนกลางคืนให้ใช้ลิปเนื้อออยล์เซรั่มเพื่อบำรุงผิวล้ำลึกตลอดค่ำคืน
ราคา: Lip Oil Serum 1,200 บาท, Lip Balm 1,200 บาท
ซื้อได้ที่: Estee Lauder ชั้น G สยามเซ็นเตอร์



4. Bond Maintenance No.4 Shampoo และ Conditioner No.5 จาก Olaplex
แชมพูและครีมนวดผมจากแบรนด์ชั้นนำทำหน้าที่เหมือนเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้แข็งแรงและเงางาม นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผมที่ผ่านการทำเคมีบ่อยๆ  เช่น ผมทำสีจะช่วยให้สีผมไม่เฝดเร็วและยังป้องกันไม่ให้เส้นผมขาดง่ายด้วย ส่วนเนื้อแชมพูยังมีความเข้มข้น ให้ฟองนุ่มละมุนดีมาก ใช้เพียงนิดเดียวก็สระได้สะอาดแล้ว ส่วนเนื้อครีมนวดก็กระจายตัวดีทำให้ไม่ต้องใช้เยอะ แถมกลิ่นยังหอมสดชื่นอีกด้วย
ราคา: Shampoo 250 ml. 1,400 บาท, Conditoner 250 ml. 1,400 บาท
ซื้อได้ที่: Sephora ชั้น G สยามเซ็นเตอร์



5. Nutriplenish™ Leave-In Conditioner จาก Aveda
คอนดิชันเนอร์สูตรไม่ต้องล้างออกช่วยฟื้นคืนความชุ่มชื่นให้แก่เส้นผมและยังช่วยป้องกันความร้อนจากการใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมต่างๆ ด้วย เพียงสเปรย์บนผมแห้งหมาดก่อนเป่าดราย น้ำมันเมล็ดทับทิมซึ่งอุดมด้วยโอเมก้า 5 ช่วยเติมความชุ่มชื่นยาวนานและกำราบผมชี้ฟูและไฟฟ้าสถิตจากอากาศแห้งให้อยู่ทรง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมช่วยปกป้องเส้นผมจากรังสียูวีซึ่งเป็นสาเหตุของผมแห้งด้วย
ราคา: 200 ml. 1,500 บาท
ซื้อได้ที่: Sephora ชั้น G สยามเซ็นเตอร์



6. Anti Pollution Facial Oil จาก Lhamour
แบรนด์ออร์แกนิกแรกของประเทศมองโกเลียที่อ่อนโยนต่อผิวที่สุด โดยผู้ก่อตั้งแบรนด์ประสบปัญหาผิวแพ้ง่ายและไม่สามารถหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผิวได้ เลยศึกษาด้านผิวหนังและส่วนผสมอย่างจริงจังจนออกมาเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ใช้วัตถุดิบจากพืชธรรมชาติของประเทศล้วนๆ  ซึ่งออยล์บำรุงผิวหน้านี้คือชิ้นเด่นที่เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่มาจากมลภาวะและแสงแดด เนื้อออยล์ยังซึมซาบดีมากและไม่อุดตันรูขุมขน ทำให้สามารถใช้ตอนกลางวันได้สบาย
ราคา: 30 ml. 1,380 บาท
ซื้อได้ที่: Ecotopia ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่



7. Ceramidin™ Liquid จาก Dr. Jart+
กลุ่มสกินแคร์ที่เหมาะสำหรับใช้ช่วงฤดูกาลนี้ที่สุด เพราะอุดมด้วยส่วนผสมเซราไมด์ซึ่งทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นล้ำลึกและช่วยบำรุงผิวชั้นนอกให้แข็งแรงเพื่อรับมือกับอากาศแห้งได้เต็มประสิิทธิภาพ ชิ้นเด็ดที่ต้องลองได้แก่โทเนอร์ตัวดาวเด่นนี้ โดยเนื้อสัมผัสเป็นลิควิดเข้มข้นแต่ซึมซาบเร็วพร้อมให้กลิ่นหอมสดชื่นอ่อนโยน ทาแล้วผิวที่แห้งกร้านจะเนียนนุ่มขึ้นทันที สามารถใช้แทนเซรั่มหรืออิมัลชั่นได้ด้วย
ราคา: 150 ml. 1,350 บาท
ซื้อได้ที่: Sephora ชั้น G สยามเซ็นเตอร์



8. Stress Relief Moisturizing Body Oil จาก Bath & Body Works
บอดี้ออยล์กลุ่มกลิ่นอโรมาเธอราพียอดนิยม สารสกัดจากน้ำมันอาร์แกนและเชียบัตเตอร์ช่วยถนอมผิวให้เนียนนุ่มและกระจ่างใส สามารถใช้เดี่ยวหรือหยดผสมกับบอดี้โลชั่นเพื่อช่วยให้ออยล์ซึมซาบลงสู่ผิวดีขึ้นและยังเพิ่มประสิทธิภาพของโลชั่นที่อาจเบาไปสำหรับช่วงหน้าหนาวให้เข้มข้นขึ้นด้วย มีหลายกลิ่นหอมผ่อนคลายให้เลือก แต่ถ้าใครชอบแนวสดชื่นหน่อย แนะนำกลิ่น Eucalyptus Tea และ Eucalyptus Spearmint นี้เลย
ราคา: 118 ml. 1,100 บาท
ซื้อได้ที่: Bath & Body Works ชั้น M สยามเซ็นเตอร์



9. Moist Body Wash จาก Minon
แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่ดังในเรื่องให้ความชุ่มชื่นผิวสูง การันตีโดยสาวญี่ปุ่นที่ต่างโหวตให้จนได้รับรางวัลมาแล้ว และครีมอาบน้ำใหม่ล่าสุดนี้ติดท๊อปยอดขายอันดับหนึ่งเช่นเดียวกัน เนื้อครีมนุ่มใช้ส่วนผสมอ่อนโยนที่สุด ปราศจากสีและแอลกอฮอล์ อาบแล้วรู้สึกได้ว่าผิวนุ่มขึ้นและไม่ทิ้งความแห้งกร้าน ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถอาบสะอาดได้ทั่วเรือนร่างแล้ว
ราคา: 450 ml. 650 บาท
ซื้อได้ที่: @Cosme Store ชั้น M สยามเซ็นเตอร์



10. Pansy Body Lotion จาก Lush
บอดี้โลชั่นกลิ่นแนวซิตรัสสดชื่นช่วยปลุกอารมณ์ให้กระปรี้กระเปร่า เนื้อครีมนุ่มเนียนอัดแน่นด้วยสวนผสมบำรุงผิวดีๆ อย่างน้ำมันโรสแมรี่และน้ำมันมะกอกผสานกับสารสกัดว่านหางจระเข้ ทำให้เนื้อสัมผัสมีความบางเบา รู้สึกเย็นสบายผิว แต่ความชุ่มชื่นนั้นได้มาเต็มๆ
ราคา: 225 g. 1,195 บาท
ซื้อได้ที่: Lush ชั้น G สยามเซ็นเตอร์



11. Rose Deep Hydration Oil-Infused Serum จาก Fresh
เซรั่มสูตรน้ำและน้ำมันเหมาะที่สุดสำหรับใครที่ชอบความสะดวกรวดเร็ว หรืออยากเริ่มใช้ออยล์แต่กลัวว่าจะมันเกินไป ตัวนี้ตอบโจทย์ที่สุดเพราะประกอบด้วยน้ำมันสกัดจากกุหลาบ, โรสฮิปและสควาเลนที่ให้ความชุ่มชื่นสูงผสานกับน้ำกุหลาบบริสุทธิ์ ช่วยทำให้เนื้อออยล์มีความบางเบา ซึมซาบเร็วและไม่ทิ้งความเหนอะหนะ แม้แต่คนผิวผสมถึงมันก็สามารถใช้ได้ สำหรับกลางวัน ลงตัวนี้ตัวเดียวแล้วตามด้วยกันแดดได้เลย
ราคา: 100 ml. 2,470 บาท
ซื้อได้ที่: Sephora ชั้น G สยามเซ็นเตอร์



12. Madagascar Centella Ampoule Foam จาก Skin1004
โฟมล้างหน้าที่ตอบโจทย์ทั้งช่วยทำความสะอาดผิวล้ำลึกและรักษาระดับความชุ่มชื่นผิวให้สมดุล จุดเด่นอยู่ที่การใช้สารสกัดใบบัวบกซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้สามารถลดปัญหาสิวอุดตันและต่อต้านอนุมูลอิสระได้ นอกจากนี้ ยังไม่มีสารก่อการระคายเคืองต่างๆ  เช่น แอลกอฮอล์ สี กลิ่น ซิลิโคน พาราเบนและมิเนอรัล ออยล์ จึงมั่นใจได้ว่าอ่อนโยนต่อผิวแน่นอน
ราคา: 125 ml. 590 บาท
ซื้อได้ที่: All About You ชั้น M สยามเซ็นเตอร์



13. Essential Mool Cream Mask จาก Jung Saem Mool
หากผิวเกิดแห้งกร้านขึ้นมาเฉียบพลัน มาฟื้นคืนความสดใสอย่างเร่งด่วนด้วยมาสก์ชนิดแผ่นนี้เลย ทั้งใช้ง่ายและคืนความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างรวดเร็ว การันตีมาแล้วโดยเมกอัพ อาร์ทิสชาวเกาหลีที่เคยใช้กับดาราและเซเลบริตี้ว่าเป็นตัวกู้ชีพผิวหน้าได้จริง ช่วยเปลี่ยนผิวแห้งกร้านให้กลับมาเนียนนุ่มทันใจ และทำให้แต่งหน้าตามได้ง่ายและสวยขึ้นด้วย ส่วนเนื้อแผ่นแบบไมโครไฟเบอร์ยังช่วยให้แปะมาสก์ได้แนบสนิทกับผิว ทำให้ส่วนผสมซึมซาบลงสู่ผิวดีขึ้น
ราคา: 5 แผ่น 900 บาท
ซื้อได้ที่: Jung Saem Mool ชั้น G สยามเซ็นเตอร์



14. Honey Hand Cream จาก Country & Stream
อย่ามองข้ามผิวมือกันด้วย ยิ่งช่วงนี้ล้างมือบ่อยขึ้น ยิ่งต้องเติมความชุ่มชื่นกลับทันที แต่หลายคนอาจไม่อยากใช้เพราะกลัวความเหนอะหนะ เลยขอแนะนำแฮนด์ครีมดังจากญี่ปุ่นนี้ซึ่งตัวครีมดูเข้มข้นเมื่อบีบออกมาแต่พอเกลี่ยแล้วเนื้อจะกระจายตัวดีมากและซึมไว อุดมด้วยส่วนผสมจากน้ำผึ้งและออร์แกนิกออยล์นานาชนิดช่วยฟื้นฟูผิวมือให้กลับมานุ่มขึ้น และยังให้กลิ่นหอมอ่อนโยนของน้ำผึ้งด้วย
ราคา: 320 บาท
ซื้อได้ที่: @Cosme Store ชั้น M สยามเซ็นเตอร์



15. Luminous Dewy Skin Mist จาก Tatcha
ผิวแห้งกร้านง่ายขึ้นในช่วงหน้าหนาวทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส แนะนำให้พกเสปรย์น้ำแร่ไว้เติมความชุ่มชื่นผิวได้ตลอดวัน ซึ่งตัวนี้พิเศษตรงที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นมอยส์เจอไรเซอร์โดยมีส่วนผสมทั้งสารสกัดน้ำมันจากพืชธรรมชาติ, กรดไฮยาลูโรนิกและสาหร่ายสีแดงโอกินาว่าผสานรวมกันเพื่อช่วยบูสต์ผิวให้กระจ่างใสและแข็งแรงขึ้น หัวสเปรย์ยังออกแบบให้ละอองน้ำแร่มีความละเอียดและกระจายตัวดี ทำให้ฉีดแล้วผิวไม่แฉะ สามารถใช้ได้ทั้งก่อนและหลังแต่งหน้าซึ่งจะช่วยให้เมกอัพติดทนนานขึ้นด้วย
ราคา: 40 ml. 1,6400 บาท
ซื้อได้ที่: Sephora ชั้น G สยามเซ็นเตอร์

YOU MAY ALSO LIKE