BACK TO EXPLORE

Bi Chalai อินสไปร์ผู้หญิงทุกคนด้วยลายอิงค์เจ็ทที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น

เป็นอีกความภูมิใจที่ Siam Center อยากเล่าถึงแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยที่กล้าออกมาสร้างสรรค์ผลงานปังๆ เด็ดๆ อย่าง Bi Chalai ซึ่งเลือกเปิดร้านอย่างเต็มรูปแบบบนชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์แห่งแรกและแห่งเดียว ขนาดผู้หญิงที่แต่งตัวเรียบๆ มาตลอดได้เห็นชุดของแบรนด์นี้แล้วหัวใจถึงกับสั่นไหว คิดว่าถ้าเราได้ไปเที่ยวหรือมีเดต อยากใส่ชุดของ Bi Chalai เราจะรู้สึกสวยมั่นใจเต็มที่แน่นอน เราเลยนัดคุยกับคุณหยก - สุรัชดา อาจองศักดิ์ แบรนด์ เมเนเจอร์ ว่าจุดเริ่มต้นของแบรนด์มาจากอะไร



คุณหยก - สุรัชดา อาจองศักดิ์ แบรนด์ เมเนเจอร์ Bi Chalai



ผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวมันส์ๆ ต้องรัก Bi Chalai!
ย้อนกลับไปเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว แบรนด์ FLYNOW สร้างกระแสความโด่งดัง แตกออกมาเป็นแบรนด์ย่อยๆ อย่าง FLYNOW III, III, Garden FLYNOW III ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์ต่างกันและหลายคนก็คงจำเสื้อผ้าใส่ง่าย โครงใหญ่ๆ เป็นเสื้อยืดและกางเกงสไตล์ MP (Mountain People) หรือทรงชาวเขากันได้ สำหรับแบรนด์ Bi Chalai เองเกิดขึ้นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เพราะอยากเห็นผู้หญิงสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น “เรากลับมามองกลุ่มลูกค้าที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง เป็นคนที่แต่งตัวตามกระแส ชอบมิกซ์แอนด์แมทช์ ที่ผ่านมา FLYNOW ไม่เคยจับลูกค้ากลุ่มนี้เลย จะเป็นเสื้อผ้าแนวเรียบหรู Garden FLYNOW III เป็นกลุ่มคนวัยทำงาน มีสไตล์เท่ๆ Bi Chalai เลยสร้างขึ้นมาเพื่อสาวๆ ที่แต่งตัวเป็นแนวลุคคุณหนู เซ็กซี่แต่ก็ยังมีความแบ๊ว อาจจะฟังดูขัดกัน แต่ถ้าเห็นเสื้อผ้าของเราแล้วจะเห็นสไตล์ว่าเป็นตามนี้จริงๆ”






ลายอิงค์เจ็ทในทุกๆ คอลเลคชั่น
แค่หันไปมองทางหน้าร้าน Bi Chalai เพียงแค่แว่บเดียว ก็จะเห็นลวดลายที่เราต้องหยุดมองเสื้อ กางเกง กระโปรงทีละตัว คุณหยกบอกกับเราว่าซิกเนเจอร์คือลายอิงค์เจ็ทที่เปลี่ยนไปตามคอลเลคชั่น “แรกๆ เราจะเน้นไปที่สีพาสเทลอย่างชมพู ฟ้าหรือลายดอกไม้ ถ้าอยากดูให้ครบทุกชิ้นต้องมาที่ Siam Center ที่เดียวจะครบทุกอย่างของแบรนด์เลยค่ะ และเรามีช็อปที่เดียวที่นี่เท่านั้น เพราะลูกค้าของเราเป็นกลุ่มแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ มีที่อื่นติดต่อมาอีกแต่เราไม่ได้ไป”





คอลเลคชั่นล่าสุดของแบรนด์ดึงความมีชีวิตชีวาของผู้หญิงออกมาได้อย่างเต็มที่ ใส่แล้วยังไงก็ต้องเบิกบานหัวใจด้วยโทนสีสดใสในคอลเลคชั่น Dare to Be Bright คุณหยกเล่าถึงแรงบันดาลใจว่า “แบรนด์ได้รับฟีดแบ็กที่ดีมาก เพราะเราเร่งสีสันและใช้ศิลปะลวดลายของชาวแอฟริกัน ทางดีไซเนอร์ก็ปรับทั้งลายผ้าและสีสัน เราเน้นสีชมพู น้ำเงิน เขียว ส้ม สีที่โดดเด่นและตัดกัน นี่เลยเป็นคอลเลคชั่นแรกที่ใช้สีสันภายใต้เอกลักษณ์ของ Bi Chalai ด้วย โดยเฉพาะเสื้อปาดบ่าหรือเสื้อเปิดไหล่ อันนี้ถูกใจลูกค้าเรามาก จะเห็นได้ในเกือบทุกคอลเลคชั่น”



คุณหยกหยิบแต่ละดีไซน์เสื้อมาให้เราเห็นกันชัดๆ ว่าเสื้อผ้าแต่ละตัวจะต้องมีดีเทล มีงานปักประดับ ลวดลายของผ้า แต่ถ้าตัวไหนเรียบๆ ก็จะไปเน้นเท็กซ์เจอร์ของผ้าแทน “เพราะลูกค้าเต็มที่กับการแต่งตัว เราก็เต็มที่กับการปักประดับในทุกตัวค่ะ!”




เสื้อผ้าที่มีเรื่องราว
ในแต่ละคอลเลคชั่นจะต้องมีธีมเข้ามาเกี่ยวข้องและบอกออกไปอย่างชัดเจน ใส่แล้วต้องจำได้ว่านี่คือลายผ้าของ Bi Chalai อย่างคอลเลคชั่นนี้เป็นลายอิงค์เจ็ทแต่ก็จะมีสีเรียบๆ มาเบรคให้แมทช์ง่ายขึ้น จากนั้นทางแบรนด์ก็จะเริ่มขึ้นโครงสร้างซิลลูเอทเสื้อผ้าให้เข้ากับเสื้อผ้าในยุคนั้นๆ ความชัดเจนมากถึงขั้นว่าถ้าเห็นลูกค้าชาวไทย สวยๆ หุ่นดีๆ นั่นล่ะ! ลูกค้าที่กำลังจะมาซื้อ Bi Chalai แน่นอน



ถ้าตกหลุมรักเสื้อผ้าในสไตล์ Bi Chalai มาได้ที่ชั้น 1 Siam Center แอบกระซิบเบาๆ ว่าคอลเลคชั่นใหม่ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าก็จะเป็นแนวดอกไม้ที่สีสันไม่พาสเทลเกินไปและไม่หนักเกินไป ต้องมาอัพเดทที่ร้านกันบ่อยๆ นะสาวๆ

YOU MAY ALSO LIKE