BACK TO EXPLORE

30 คำศัพท์ที่อยากให้คุณรู้ ก่อนดูแฟชั่นโชว์ BIFW 2019

30 คำศัพท์ที่อยากให้คุณรู้ ก่อนดูแฟชั่นโชว์ BIFW 2019
ศัพท์เทคนิคสุดชิคแห่งโลกแฟชั่น...รู้ไว้ เสริมบารมีแห่ง ‘สไตล์’ แน่นอน!

นับถอยหลังสู่งานแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี กับงาน Bangkok International Fashion Week (BIFW) 2019 ปรากฏการณ์แห่งโลกแฟชั่นสุดตื่นตาตื่นใจ ล้นด้วยแรงบันดาลใจ และความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่...OneSiam รวมคำศัพท์ที่คนแฟชั่นใช้พูดกัน ให้คุณเข้าใจแบบง่ายๆ เพิ่มอรรถรสในการชมโชว์เหมือนมีแฟชั่นกูรูมานั่งเป็นเพื่อน


1. Front Row ที่นั่งชมแฟชั่นโชว์แถวหน้าสุด สำรองไว้ให้กับบุคคลที่มีอิทธิพลในวงการแฟชั่น ตั้งแต่เอดิเตอร์ตัวท็อป จนถึงเซเลบริตี้ระดับเอลิสต์ บล็อกเกอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ



2. Faux Pas ภาษาฝรั่งเศส อ่านว่า โฟส์ ปาส์ หมายถึงการทำผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจเวลาเข้าสังคม ในวงการแฟชั่นหมายถึง ข้อห้ามทำอย่างยิ่ง ใครทำถือว่าปล่อยไก่ และทำให้เกิดความอับอายได้ เช่น ใส่แว่นกันแดดตอนกลางคืนหรือในที่ร่ม จัดเต็มแอ็กเซสซอรี่ทั้งตัว


3. Fabric เนื้อผ้าตั้งต้น ก่อนที่จะถูกนำไปใช้ตัดเป็นชุด มีตั้งแต่ผ้าคอตตอน ผ้าไหม ผ้ามัสลิน ผ้าเจอร์ซี่ ผ้าทวี้ด ผ้ากำมะหยี่



4. Asymmetric อสมมาตร ดีไซน์เสื้อผ้าที่มีความยาวไม่เท่ากัน อาจเป็นชายเสื้อ แขนเสื้อ หรือชายกระโปรง



5. Silhouette โครงร่างหรือรูปทรงของเสื้อผ้า สามารถเน้นและปรับเปลี่ยนรูปร่างของผู้สวมใส่ให้ดูดีได้ เช่น ซิลลูเอตแบบ Ball Gown ชุดราตรีแบบเทพนิยาย ฟูฟ่องช่วงกระโปรง เสริมลุคสำหรับผู้หญิงไซส์มินิ ซิลลูเอตแบบ A-Line ชายกระโปรงบานเหมือนตัวอักษร A และซิลลูเอตแบบ Mermaid หางปลา ช่วยขับส่วนโค้งเว้าให้โดดเด่น



6. Androgynous ลุคที่มีความก้ำกึ่งระหว่างชายและหญิงในคนคนเดียว เป็นสไตล์การแต่งตัวที่สลับกับเพศสภาพของผู้สวมใส่ ตัวอย่างที่โดดเด่น คือ โกโก ชาเนล ที่ลุกขึ้นมาออกแบบกางเกงให้ผู้หญิงใส่เพื่อความกระฉับกระเฉงและยังเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ของการใส่กางเกง หรือชุดสูท Le Smoking ของอีฟส์ แซงต์ โลรองต์ ล่าสุด ก็ต้องคาร่า เดเลวีน กับลุคทักซิโดสูทในพิธีเสกสมรสของราชวงศ์อังกฤษ



7. Feminine ลุคที่มีความเป็นผู้หญิง อ่อนหวาน บอบบาง น่าทะนุถนอม อาจมีลวดลายดอกไม้ เท็กซ์เจอร์เนื้อผ้าที่พลิ้วไหว โปร่งบาง สีสันดูละมุนตา หรือดีเทลโบ จับจีบ ระบาย พลีต



8. Lookbook หนังสือหรือแคตตาล็อกที่รวมรูปถ่ายคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าและแอ็กเซสซอรี่ที่ดีไซเนอร์ใช้เพื่อพรีเซนต์ผลงานให้กับบายเออร์และสื่อมวลชน



9. Season ฤดูกาลตลอด 1 ปีที่ดีไซเนอร์เปิดตัวคอลเล็กชั่น แบ่งได้กว้างๆ คือ คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน และคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว


10. Resort Collection หรือ Cruise Collection คอลเล็กชั่นคั่นระหว่างฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน เป็นเสื้อผ้าสำหรับใส่ในช่วงวันหยุดหน้าร้อน ที่จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงพฤศจิกายน แรกเริ่มเจาะกลุ่มลูกค้าเป็นเจ็ตเซ็ตเตอร์ (คนร่ำรวยที่เดินทางท่องเที่ยวแบบหรูหราด้วยเครื่องบินเจ็ต) FYI จากคนวงในระดับโลกว่า รีสอร์ตคอลเล็กชั่นขายได้มากกว่าคอลเล็กชั่นหลักเสียอีก!


11. Trompe l’oeil เทคนิค “ทร็องป์เลย” เป็นภาษาฝรั่งเศสหมายถึงภาพลวงตา ในทางแฟชั่นคือการสร้างเอ็ฟเฟ็กต์เหมือนเป็นภาพ 3 มิติบนเสื้อผ้า นอกจากเป็นกิมมิกความสนุกแล้ว ยังใช้เพื่อปรับรูปร่าง หรือเพิ่มเลเยอร์ได้ด้วย



12. Color-blocking การจับคู่สีที่ตรงข้ามกัน (โดยมากเป็นสีสด) ให้มาอยู่ด้วยกัน เหมือนต่อกันเป็นบล็อกๆ มีทั้ง 2 สีหรือมากกว่านั้น และเดรสต้นแบบของเทรนด์นี้ต้องยกให้คอลเล็กชั่นเดรส Mondrian ของอีฟส์แซ็งต์โลรองต์ในปี ค.ศ. 1965 ที่อินสไปร์มาจากภาพวาดแนวเรขาคณิตสีสดของศิลปิน Piet Mondrian เทรนด์คัลเลอร์บล็อกนี้ยังช่วยให้ผู้ใส่ดูสลิมขึ้น เมื่อจับคู่กับสีดำหรือใช้เฉดสีเข้มๆ ในตำแหน่งที่ช่วยพรางหุ่นได้ - - ใครที่อยากลองเทรนด์นี้ OneSiam มีทริคง่ายๆ คือ เลือกสีนิวทรัล + สีสด เช่น เทา/น้ำตาล/ขาว/กรมท่า + เขียว/เหลือง/แดง



13. Capsule collection เหมือนเป็นคอลเล็กชั่นเฉพาะกิจ ที่ดีไซเนอร์ผลิตไอเท็มชิ้นเบสิกเพียงไม่กี่ชิ้น ที่สามารถใส่ได้ตลอดเวลาและอยู่เหนือเทรนด์ เน้นฟังก์ชั่นและดีไซน์ที่คลาสสิก ครอบคลุมเสื้อเชิ้ต เสื้อยืด เสื้อเบลาส์ เสื้อคลุม แจ็กเก็ต กางเกงขายาว กระโปรง เดรส กระเป๋า และรองเท้า


14. Haute couture โอต กูตูร์ ภาษาฝรั่งเศส คือศิลปะแฟชั่นเสื้อผ้าชั้นสูง ตัดเย็บอย่างพิถีพิถันด้วยมือและใช้เนื้อผ้าคุณภาพสูง ผ่านขั้นตอนการประดิดประดอยขั้นสุด งานที่กินเวลานานและสนนราคาประเมินไม่ได้ (ราคาหลักล้าน!) และมีเพียงแฟชั่นเฮ้าส์ไม่กี่แห่งที่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็น Haute Couture ได้จริงๆ เพราะต้องผ่านเกณฑ์อันเคร่งครัดจากสมาพันธ์ห้องเสื้อชั้นสูงของฝรั่งเศส เช่น ออกแบบและตัดชุดให้กับลูกค้าแบบตัวต่อตัว ต้องมีการฟิตติ้งอยู่เป็นระยะๆ ในอะเตอลิเย่ร์ (ที่ทำงาน) ที่มีลูกมืออย่างน้อย 15 คน มีช่างเทคนิคอย่างน้อย 20 คนประจำ และออกคอลเล็กชั่นปีละ 2 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 50 ชุด - - ต้องมีชื่อของ Chanel, Dior, Givenchy, Jean Paul Gaultier, Valentino และ Elie Saab


15. Stiletto รองเท้าส้นเข็ม ถือเป็นรองเท้าปราบเซียนและอาวุธพิฆาตของผู้หญิง ใส่เมื่อไรดูเซ็กซี่เมื่อนั้น ช่วยให้ขาดูเรียวยาว เท้าดูเล็กลง ปรับท่าทางและการเดิน โดยบังคับให้ต้องเกร็งกล้ามเนื้อน่อง เน้นหน้าอกและบั้นท้ายให้โดดเด้งไปในตัว โดยเรียกชื่อตามลักษณะของมีดสั้นแบบกริช ความสูงตั้งแต่ 1-10 นิ้ว



16. Off-the-shoulders เทรนด์เสื้อเปิดไหล่กำลังฮ็อตเลย แต่กระแสนิยมต้องย้อนกลับไปมีตั้งแต่ช่วงต้นๆ ปี ค.ศ. 1800 ในอังกฤษ ที่นิยมใส่เดรสรัดช่วงลำตัวและแขนเสื้อแบบเปลือยไหล่ ก่อนที่บริจิตต์ บาร์โดต์ นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศสจะทวิสต์ใส่ในสไตล์ของเธอเอง แมตช์กับกระโปรงทรง midi ยาวประมาณน่อง หรือกางเกงในทศวรรษ 60 และเริ่มกลับมาฮิตอีกครั้งตั้งแต่ปี 2014 กับสไตล์ที่เทรนดี้ เซ็กซี่แบบพอดีๆ



17. Muse บุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปิน (ในที่นี้คือดีไซเนอร์) ในการสร้างสรรค์ผลงาน ส่วนมากเป็นนางแบบหรือคนดังระดับไอคอน ที่มีเซนส์ทางด้านสไตล์เป็นทุนเดิม นอกจากเป็นอินสไปร์ให้แล้ว ยังช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการทำงานของดีไซเนอร์ หรือปรากฏตัวในแคมเปญแอดด้วย ในประวัติศาสตร์แฟชั่น เราคุ้นเคยกับดูโออย่าง อูแบร์ เดอ จีวองชี เจ้าของแฟชั่นเฮ้าส์ Givenchy ที่ออกแบบคอลเล็กชั่นโดยได้แรงบันดาลใจมาจากนักแสดงสาวออเดรย์ เฮปเบิร์น, ดีไซเนอร์ทอม ฟอร์ด กับนักแสดงสาวระดับออสการ์อย่างจูเลียน มัวร์, คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ จากห้องเสื้อ Chanel กับแวมไพร์สาวคริสเตน สจ๊วต


18. Embroidery งานปักลวดลาย นิยมใช้เส้นด้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าคอตตอน หรือผ้าเรยอนมาเย็บลงบนเนื้อผ้า หรือแฟชั่นไอเท็มอื่นๆ อาจใช้แมตทีเรียลอื่นๆ เช่น ไข่มุก ลูกปัด เลื่อม



19. Floral ลายดอกไม้ หนึ่งในลวดลายที่โลกแฟชั่นให้การต้อนรับมาโดยตลอด สวยด้วยสีสันและสไตล์หลากหลาย เพิ่มความน่ารักให้กับเสื้อผ้า และยังเป็นสัญลักษณ์สากลที่แสดงความเป็นผู้หญิง เรามักเห็นลวดลายดอกไม้ในแฟชั่นต้อนรับสปริง/ซัมเมอร์ ต้นกำเนิดของลายฟลอรัลนี้มาจากโลกตะวันออก ที่ดอกเบญจมาศและดอกโบตั๋นถูกใช้ประดับบนผ้าไหมกิโมโน



20. Motif / Print / Pattern หมายถึง ลวดลาย มีตั้งแต่ลายดอกไม้ ลาย stripe (ลายริ้วหรือลายทาง) ลาย polka dot (ลายจุด) ลาย tartan (ลายสก็อต) ลาย houndstooth (ลายฟันสุนัข) ลาย argyle (ลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด) ลาย paisley (ลายลูกน้ำ)



21. Distressed ดีไซน์เสื้อผ้าแบบตั้งใจให้ขาดวิ่น หรือดูเก่า มักใช้กับยีนส์ เป็นสไตล์แบบ imperfect ที่ perfect ในวงการแฟชั่น แถมฮ็อตฮิตและติดอันดับเดนิมเบสเซลเลอร์ด้วย เทรนด์นี้มีจุดเริ่มต้นมาจากกระแส punk ในยุค 70 ที่ใช้วิธีการทำลายสิ่งของเครื่องใช้ หนึ่งในนั้นคือ การฉีกขาดยีนส์ เพื่อแสดงการต่อต้านสังคม แบรนด์ที่ผลิตยีนส์เลือกใช้วิธีฉีกยีนส์ให้ขาดด้วยเลเซอร์ หรือใช้มือที่จะมีความละเอียดซับซ้อนมากกว่า ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง



22. Monochrome การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่คุมโทนสีเดียว แต่สามารถเล่นกับระดับเฉดสีได้ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ หรือเน้นไปที่สีขาว-ดำ-เทา สำหรับลุคแบบคลาสสิกที่ไม่มีวันตกเทรนด์



23. Oversized รูปทรงแบบใหญ่ โคร่ง หลวม พอง ที่ครองรันเวย์ในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว มีตั้งแต่เสื้อเชิ้ต เดรส กางเกงขายาว เสื้อคลุม ข้อดีอันดับต้นๆ เลยคือ ความรู้สึกสบาย เพิ่มเติมคือความชิค และในเชิงลึก แฟชั่นแบบโอเวอร์ไซส์สามารถซ่อนความรู้สึกไม่มั่นใจไว้ได้ หลักง่ายๆ คือความบาลานซ์ ถ้าใส่เสื้อตัวใหญ่โคร่ง ท่อนล่างควรจะกระชับเข้ารูปหน่อย สาวร่างเล็กบางแนะนำให้ใส่โอเวอร์ไซส์เฉพาะท่อนบน ส่วนสาวเจ้าเนื้อกะขนาดให้ดีๆ ไม่เช่นนั้นจากปังจะเป็นพัง



24. Athleisure มาจาก Athletic (กีฬา) + Leisure (เวลาว่าง) ใช้หมายถึงเสื้อผ้าสไตล์ลำลองที่ใส่ไปออกกำลังกายเบาๆ และใส่ในชีวิตประจำวันได้ มีตั้งแต่เสื้อฮู้ดดี้ เสื้อยืด กางเกงสไตล์จ็อกเกอร์ บราแบบสปอร์ต จนถึงรองเท้าสนีกเกอร์ ซึ่งเสื้อผ้าสไตล์นี้เน้นฟังก์ชั่นสวมใส่สบาย มีคุณสมบัติระบายเหงื่อได้ดี ยืดหยุ่น และนุ่มสบาย - - ผสมผสานโลกของแฟชั่นและกีฬาอย่างมีสไตล์ และช่วยสร้างความรู้สึกฟีลกู๊ดจากการที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์แบบเฮลตี้


25. Backstage ด้านหลังเวทีแฟชั่นโชว์ เป็นสถานที่แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวของนายแบบนางแบบก่อนเดินโชว์ “เป็นนาทีแห่งความโกลาหลและความบ้าคลั่งก่อนโชว์เริ่ม” คำสารภาพจากแฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลก และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นและคนดูไม่ได้เห็น - - แก้ปัญหา (ที่อาจจะเกิดขึ้น) แบบฉับพลัน อย่างชุดที่จะใส่เดินแบบเกิดชำรุด หรือนายแบบนางแบบผละมาจากอีกโชว์ แล้วต้องเมกอัพใหม่ในเวลาที่เหลือน้อยนิด แต่หลังโชว์จบก็จะเป็นโมเม้นต์ที่ผ่อนคลายขึ้น มักเห็นกลุ่มคนแฟชั่นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังถ่ายเซลฟี่กัน - - แน่นอนต้องมีช็อตทำหน้าตาแปลกๆ หรือแอบขโมยซีน ให้ขำก๊าก




26. Ready-to-wear / Prêt-à-porter (แพร-ตา-ปอร์-เต้) เสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ออกแบบมาในขนาดมาตรฐานสำหรับคนทั่วไป สำหรับแฟชั่นไฮเอนด์ บรรดาแบรนด์ต่างๆ จะนำเสนอคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าเรียดี้ทูแวร์ในช่วงเวลาที่เรียกกันว่า “แฟชั่นวี้ก” ปีหนึ่ง 2 ครั้งที่โด่งดังระดับโลกจัดที่นิวยอร์ก ลอนดอน มิลาน และปารีส


27. Décolleté (เด-โก-แลต-เต้) ภาษาฝรั่งเศส หมายถึงเสื้อผ้าสตรีที่ออกแบบให้มีคอลึก เผยให้เห็นช่วงไหล่และเนินอก ในสังคมตะวันตกมองว่าการเผยให้เห็นช่วงลำคอและเนินอกคือความงามและแสดงความเป็นหญิง แต่บางประเทศกลับมองว่าน่าสะพรึงและเป็นการยั่วยวน



28. Fast fashion แบรนด์ที่ผลิตเสื้อผ้าที่ตามติดเทรนด์แฟชั่นล่าสุด โดยมากมักอินสไปร์มาจากเทรนด์ต่างๆ ในรันเวย์แฟชั่นวี้ก เจาะกลุ่มลูกค้าหลักที่อยากช้อปแฟชั่นอินเทรนด์ในราคาที่จ่ายไหว


29. Designer’s walk เหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีไซเนอร์จะปรากฏตัวบนรันเวย์หลังโชว์จบ พร้อมเสียงปรบมือและอาจจะมีนายแบบ-นางแบบมามอบดอกไม้ให้ด้วย




30. See now, buy now รูปแบบธุรกิจแฟชั่นที่ผู้บริโภคสามารถ “ช้อป” สินค้าที่ “เห็น”บนรันเวย์แฟชั่นโชว์ได้ “ทันที” โดยไม่ต้องรอไปอีก 4-6 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาปกติที่สินค้าจากรันเวย์แฟชั่นโชว์จะถูกสั่งผลิตและส่งไปวางขายตามหน้าร้าน โดย Burberry และ Tom Ford เป็นแบรนด์แรกๆ ที่จุดกระแส SNBN

YOU MAY ALSO LIKE